Phuket buy and Sell เคล็ดลับการเลือก ซื้อหรือเช่าบ้านของคุณในภูเก็ต

เคล็ดลับการเลือก Phuket buy and Sell การเช่าซื้อเป็นส่วนเสริมที่ค่อนข้างใหม่ในโครงสร้างต่าง ๆ ที่ใช้เพื่อช่วยเหลือชาวต่างชาติในการเป็นเจ้าของหรือควบคุมทรัพย์สินที่มีที่ดิน บ้านจัดสรร บทความนี้พยายามที่จะอธิบายว่าสัญญาเช่าซื้อทำงานอย่างไรและทำไมจึงอาจดีกว่าสัญญาเช่า 30 + 30 + 30 ที่จ่ายล่วงหน้ามากกว่าปกติ

เคล็ดลับการเลือก Phuket buy and Sell ข้อมูลสำคัญที่ควรรู้สำหรับการซื้อขายบ้าน หรือ วิลล่าภูเก็ต

ภูเก็ตถือเป็นสถานที่ตากอากาศที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่มีบ้านพักตากอากาศ วิลล่าระดับหรู รวมไปถึงคอนโดมิเนียมและอพาร์ทเม้นท์สำหรับขายมากมาย ซึ่งการซื้อวิลล่าและบ้านพักตากอากาศระดับหรูในภูเก็ตนั้นสามารถเทียบได้กับบ้านในแถบเมดิเตอร์เรเนียนและแคริบเบียน แต่มีราคาที่ต่ำกว่ามาก

ตลาดซื้อขายบ้าน วิลล่าภูเก็ตได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นที่สุดในเอเชีย โดยมีการขยายตัวตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2533 พร้อม ๆ กับการเติบโตด้านการท่องเที่ยว วิลล่าในป่าตอง ภูเก็ตมีการวางตำแหน่งทางด้านการตลาดบ้านพักตากอากาศที่เหมาะสม อีกทั้งมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกและให้ความบันเทิงระดับโลก

รวมถึงสนามบินนานาชาติที่สามารถเดินทางเข้าถึงได้โดยสะดวก นักลงทุนจำนวนมากจึงเลือกที่จะลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่นี่ โดยการซื้อวิลล่าและบ้านพักตากอากาศ เนื่องจากเป็นตัวเลือกที่ผสมผสานระหว่างความหรูหราแบบตะวันตกกับวิถีชีวิตแบบประเทศแถบร้อนชื้น

ซีบีอาร์อี ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาดซื้อขายบ้าน วิลล่าภูเก็ตที่เพิ่มสูงขึ้นในระยะยาว จึงได้เปิดสำนักงานสาขาภูเก็ตขึ้นในปี พ.ศ. 2547 พร้อมตั้งทีมงานที่ประกอบไปด้วยพนักงานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทั้งวิลล่า บ้านพักตากอากาศ คอนโดมิเนียม และอพาร์ทเม้นท์ โดยทีมงานของเรามีความรอบรู้เกี่ยวกับตลาดนี้อย่างกว้างขวาง สามารถนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ซื้อและนักลงทุนที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นคอนโด วิลล่า หรือบ้านพักตากอากาศได้เป็นอย่างดี

ชนิด และ คำจำกัดความของบ้านพักตากอากาศในภูเก็ต – เคล็ดลับการเลือก Phuket buy and Sell

“บ้านพักตากอากาศ” เป็นคำทั่วไปที่ใช้เรียกอสังหาริมทรัพย์ที่ตั้งอยู่บนที่ดิน โดยทั่วไปแล้วจะเป็นอาคารชั้นเดียวหรือสองชั้นที่ถูกสร้างในที่ดินส่วนบุคคล วิลล่า ราคาถูกภูเก็ต บ้านพักตากอากาศในภูเก็ตส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในโครงการรีสอร์ตหรือหมู่บ้านจัดสรร รวมไปถึงบ้านเดี่ยวที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในโครงการ ซึ่งมักมีจำนวนจำกัดในท้องตลาด

โครงการซื้อขายบ้านภูเก็ตที่มีคุณภาพดีส่วนใหญ่จะเสนอขายในรูปแบบของการถือกรรมสิทธิ์เช่าระยะยาว ซึ่งตามกฎหมายไทย ชาวต่างชาติจะถูกห้ามมิให้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์ในที่ดิน ดังนั้น หากชาวต่างชาติต้องการที่จะซื้อบ้านในภูเก็ต จะต้องทำสัญญาเช่าระยะเวลา 30 ปี ซึ่งจะมีการต่อสัญญาต่อเนื่องแทน

อย่างไรก็ตาม ไม่มีข้อห้ามในการถือครองสิทธิ์โดยสมบูรณ์เหนืออาคารสำหรับชาวต่างชาติ ในกรณีของผู้ซื้อชาวไทย จะสามารถเป็นเจ้าของที่ดินและอาคารได้เมื่อโครงการเสนอตัวเลือกแบบให้กรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์

บ้านพักตากอากาศ หรือ วิลล่าในภูเก็ตแบ่งออกได้ดังนี้

บ้านพักตากอากาศ หรือ วิลล่าในทำเลดีในภูเก็ต

บ้านพักตากอากาศหรือวิลล่าทำเลดี มักตั้งอยู่ริมชายหาดซึ่งมีทิวทัศน์ริมทะเลที่สวยงาม โดยบ้านพักตากอากาศในภูเก็ตประเภทนี้มีราคาตั้งแต่ 3 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับอาคารขนาด 4 ห้องนอน ซึ่งโดยทั่วไปจะประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำส่วนตัว พื้นที่อยู่อาศัยขนาดกว้างขวางทั้งในและนอกตัวอาคาร และอุปกรณ์เครื่องใช้คุณภาพสูง รวมไปถึงมีการจัดการอย่างมืออาชีพ

บ้านพักตากอากาศระดับหรูในภูเก็ต

ราคาของบ้านพักตากอากาศภูเก็ตระดับหรูจะเริ่มตั้งแต่ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ และส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในบริเวณที่มีปริมาณความหนาแน่นของที่อยู่อาศัยน้อย จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง โดยลักษณะทั่วไปของบ้านพักตากอากาศหรือวิลล่าระดับหรูในภูเก็ตจะประกอบไปด้วยทำเลที่ดี ซึ่งอาจอยู่บนเนินเขาหรือใกล้กับชายหาด บ้านพูลวิลล่า ภูเก็ต โดยบางแห่งจะมีวิวทิวทัศน์ของทะเลที่สวยงาม บ้านพักตากอากาศระดับหรูจะมีการก่อสร้างและตกแต่งที่ดีเยี่ยม ส่วนใหญ่จะมีสระว่ายน้ำส่วนตัว และอุปกรณ์เครื่องใช้คุณภาพสูง รวมถึงมีการจัดการอย่างมืออาชีพ

บ้านแฝด และ ทาวน์เฮ้าส์

บ้านแฝดและทาวน์เฮ้าส์ในโครงการบ้านพักตากอากาศภูเก็ตจะอยู่บริเวณใกล้ลากูน่า (Laguna) โดยโครงการเหล่านี้ส่วนใหญ่จะไม่ติดชายหาด ไม่มีทิวทัศน์ของทะเล และตั้งอยู่ในบริเวณที่มีปริมาณที่พักอาศัยหนาแน่นบนที่ดินขนาดเล็ก อสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้จะมีคุณภาพการก่อสร้างที่ดีและมีสิ่งอำนวยความสะดวกมาตรฐานทั่วไป โดยปกติการซื้อขายบ้านภูเก็ตลักษณะนี้จะมีราคาประมาณ 500,000 เหรียญสหรัฐ

บ้านพักตากอากาศที่บริหารโดยเครือโรงแรมในภูเก็ต

โครงการบ้านพักตากอากาศ หรือวิลล่าภูเก็ตจำนวนมากอยู่ภายใต้การบริหารงานของโรงแรมระดับสี่และห้าดาว เช่น เดอะ พอยท์ ยามู บาย โคโม (The Point Yamu by Como) บันยันทรี และ ดุสิตธานี เป็นต้น ผู้เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้จะได้รับประโยชน์จากการบริหารจัดการในระดับสี่หรือห้าดาว ราคาซื้อขายบ้านพักตากอากาศ หรือ วิลล่าในเครือโรงแรมเริ่มตั้งแต่ 750,000 เหรียญสหรัฐ สำหรับระดับสี่ดาว และตั้งแต่ 2 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับระดับห้าดาว

สถานที่ตั้งของบ้านพักตากอากาศในภูเก็ต

พื้นที่ที่มีการพัฒนาในภูเก็ตนั้นมีอยู่หลากหลาย แต่เดิมชายฝั่งตะวันตกเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา โดยในปัจจุบันมีบ้านพักตากอากาศภูเก็ตระดับหรูมากมายตั้งอยู่ รวมถึง อมันปุรี และเนื่องจากที่ดินติดทะเลด้านชายฝั่งตะวันตกถูกจับจองเกือบหมด ทำให้ชายฝั่งด้านตะวันออกและด้านใต้ได้รับความสนใจมากขึ้น โดยมีโครงการ เช่น เคปยามู และ เดอะ พอยท์ ยามู บาย โคโม เกิดขึ้น โครงการทั้งหลายยังขยายออกนอกเกาะภูเก็ตไปยังพังงา กระบี่ และเกาะต่าง ๆ ในอ่าวพังงาอีกด้วย

ชายฝั่งตะวันตก
ชายหาดที่สวยงามของชายฝั่งตะวันตกตั้งแต่ในทอนยาวลงไปถึงกะตะน้อย เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูเก็ตและมีสัดส่วนของโรงแรมและสถานที่พักตากอากาศมากที่สุด จุดเริ่มของการพัฒนานั้นเน้นไปที่ป่าตอง เรื่อยไปจนกระทั่งมีการเปิดตัวของลากูน่า ภูเก็ต ทำให้พื้นที่หลักของการพัฒนาเปลี่ยนไปเป็นที่บางเทา และสุรินทร์ ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นศูนย์กลางของโครงการบ้านพักตากอากาศระดับหรู

ชายฝั่งตะวันออก
เนื่องจากที่ดินในบริเวณชายฝั่งตะวันตกของภูเก็ตมีจำนวนจำกัด ทำให้ในปัจจุบัน ชายฝั่งตะวันออกซึ่งมีทิวทัศน์ที่สวยงามของอ่าวพังงากลายเป็นพื้นที่ที่ถูกพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีการซื้อขายบ้านภูเก็ตหลายแห่ง โครงการบ้านภูเก็ต การมีเส้นทางเข้าถึงอ่าวพังงาโดยสะดวก ยิ่งทำให้บริเวณนี้เป็นที่สนใจของนักพัฒนาท่าเทียบเรือ

โดยมีโครงการต่าง ๆ เกิดขึ้น เช่น ยอร์ช เฮเว่น รอยัล ภูเก็ต, มารีน่า อ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า และโบ๊ท ลากูน รวมทั้งโครงการบ้านพักตากอากาศระดับหรู เช่น มารีน่า ลีฟวิ่ง บาย อ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า, เดอะ เคปยามู บ้านยามู และ เดอะ พอยท์ ยามู บาย โคโม

ชายฝั่งทางใต้
ระยะทางจากสนามบินนานาชาติภูเก็ตและสนามกอล์ฟทำให้ชายฝั่งทางใต้มีการพัฒนาที่ช้ากว่าพื้นที่อื่น ชายฝั่งทางใต้ของภูเก็ตไม่เพียงมีชายหาดที่สวยงาม แต่บริเวณนี้ยังมีแหลมมากมาย มีโครงการหลายแห่งที่มีทิวทัศน์ของทะเลที่สวยงามโดยเฉพาะแหลมพันวาและราไวย์

ชายฝั่งทางเหนือ
เนื่องด้วยที่ดินติดชายหาดในบริเวณชายฝั่งด้านตะวันตกนั้นมีจำนวนจำกัด โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งจึงเกิดขึ้นทางด้านเหนือของเกาะ ซึ่งมีข้อได้เปรียบในเรื่องระยะทางที่ใกล้กับสนามบินนานาชาติภูเก็ต

พื้นที่ราบไม่ติดชายทะเล
จุดที่เป็นที่นิยมสำหรับการพัฒนาบ้านพักตากอากาศภูเก็ตคือบริเวณที่ห่างจากชายหาดไม่มากนัก สามารถเข้าถึงชายหาดได้ง่าย และมีทิวทัศน์ของสนามกอล์ฟ อสังหาริมทรัพย์ หรือตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณที่เป็นศูนย์กลางของกิจกรรมสันทนาการ เช่น ในตัวเมืองภูเก็ต ซึ่งการซื้อขายบ้านภูเก็ตในบริเวณเหล่านี้เริ่มได้รับความสนใจจากผู้ซื้อมากขึ้นเรื่อย ๆ

พื้นที่โดยรอบภูเก็ต (พังงา กระบี่ และเกาะใกล้เคียง)
พังงาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุนที่หลีกเลี่ยงความวุ่นวายของหาดในภูเก็ต โดยพังงาตั้งอยู่ทางเหนือของเกาะภูเก็ต ซึ่งมีชายฝั่งทะเลที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ และอยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาติภูเก็ต โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการพัฒนาแต่ก็เริ่มจะมีโครงการต่างๆ เกิดขึ้นบ้าง

คู่มือการซื้อวิลล่าภูเก็ต และบ้านพักตากอากาศ

เงื่อนไขการชำระเงินสำหรับการซื้อวิลล่าภูเก็ต และบ้านพักตากอากาศ

อสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตส่วนใหญ่จะถูกขายระหว่างดำเนินการก่อสร้างหรือสร้างแล้วเสร็จบางส่วน ผู้ซื้อมักถูกเรียกให้ชำระค่าจองซึ่งจะเป็นการประกันทรัพย์สินที่จะถูกถอนออกภายหลังจากการเปิดตลาด จากนั้นจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง (โดยปกติประมาณ 30 วัน) เพื่อดำเนินการตรวจสอบเอกสารและสัญญาทางกฎหมายให้แล้วเสร็จก่อนทำการชำระเงินงวดแรกในวันเซ็นต์สัญญา หลังจากนั้นการชำระเงินจะถูกแบ่งเป็นงวดขึ้นอยู่กับระยะเวลาก่อสร้าง ดังตัวอย่างต่อไปนี้

ในวันที่เซ็นต์สัญญา: 20%
ถมที่ดินหรือตอกเสาเข็มแล้วเสร็จ: 20%
ตั้งเสา ปูพื้นและโครงหลังคาแล้วเสร็จ: 20%
ตกแต่งภายนอก รวมไปถึงประตูด้านนอกอาคารและหน้าต่างแล้วเสร็จ: 20%
การตกแต่งขั้นสุดท้ายและรับโอนกรรมสิทธิ์ของอสังหาริมทรัพย์: 20%

ค่าใช้จ่ายเงินกองทุน (Sinking Fund)

ในโครงการบ้านพักตากอากาศหรือคอนโดมิเนียมใหม่ เจ้าของแต่ละคนจะชำระเงินก้อนแรกเข้าเป็นกองทุนในวันที่ทำการโอนกรรมสิทธิ์ของอสังหาริมทรัพย์นั้น ๆ โดยเงินกองทุนดังกล่าวจะใช้เป็นค่าบริหาร villas Phuket ค่าบำรุงรักษาทรัพย์สินส่วนกลางในอนาคตหากมีการใช้จ่ายเกินงบประมาณที่ตั้งไว้

ค่าบริหารจัดการพื้นที่ส่วนกลาง

ในโครงการบ้านพักตากอากาศหรือคอนโดมิเนียมหลายแห่ง ผู้บริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ เช่น ซีบีอาร์อี จะได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่ส่วนกลางในทุกด้าน โดยบริการจะประกอบไปด้วย