บ้านดินดีกว่าบ้านปูนอย่างไร บ้านดิน อีกหนึ่งแนวทางการสร้างบ้านยอดนิยมไม่น้อยในปัจจุบัน รูปแบบของบ้านดินเหมาะสำหรับสร้างไว้บนเนินเพื่อคุ้มครองน้ำท่วมขัง รวมทั้งจะเหมาะสมมากสำหรับคนที่มีที่ดินเยอะ เพราะจะสามารถขุดดินในพื้นที่ตนเองนำมาสร้างบ้าน ช่วยลดต้นทุนหลักไปได้ค่อนข้างเยอะ
จุดเด่นของ บ้าน ดินโดยรวมแล้วจะมุ่งเน้นที่วัสดุจากธรรมชาติ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้ความปลอดภัยสำหรับเพื่อการอยู่อาศัย ปรับใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่นเอามาสร้างบ้านด้วยตนเอง
บ้านดินดีกว่าบ้านปูนอย่างไร ประโยชน์ของการอยู่บ้านดิน
ปัจจุบันพวกเราชอบเห็นที่พักอาศัยผุดมากยิ่งขึ้นมายในเมืองหลวงเป็นดอกเห็ด ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือคอนโด ที่ถูกสร้างมาเพื่อตอบสนองความสบายสบายของคนรุ่นใหม่ เหมือนกับบ้านตามนอกเมืองหรือต่างจังหวัดที่ใช้สิ่งก่อสร้างสมัยใหม่ ทำให้พวกเราไม่ค่อยได้มองเห็นสิ่งก่อสร้างที่เกิดขึ้นมาจากธรรมชาติ วิลล่าภูเก็ต
หรือที่พวกเราจะเอ่ยถึงเป็นบ้านที่เกิดขึ้นมาจากความคิดอย่าง “บ้านดิน” ที่เริ่มลดน้อยถอยลงไป หากว่าบ้านดินนั้นจะมีประโยชน์เยอะมากอย่างที่ใครหลายคนนึกไม่ถึง รวมทั้งประโยชน์ของบ้านดินนั้นมีอะไรบ้าง บทความนี้จะมาเปิดประตูดูคุณประโยชน์ที่คุณอาจละเลยกันไป
- มีคุณสมบัติในการเป็นฉนวน บ้านดินสามารถรองรับภูมิอากาศหนาวจัดรวมทั้งร้อนมากก้าวหน้า โดยสามารถควบคุมอุณหภูมิระดับ 24-26 องศาเซลเซียสได้ตลอดทั้งปี รวมทั้งการดูดซึมความชุ่มชื้นเจริญ ปกป้องบ้านจากความร้อน เนื่องจากอิฐดินเป็นตัวคุ้มครองป้องกัน เพราะมีความหนาแน่นมากยิ่งกว่าก้อนอิฐมวลค่อยทำให้แสงอาทิตย์ที่มากระทบแพร่คลื่นความร้อนออกมาได้น้อยกว่าบ้านผนังประเภทอื่นๆ
- ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมแล้วก็ทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยเหตุว่าสิ่งของที่ใช้ส่วนมากจะเป็นดินที่มีอยู่ตามพื้นที่ต่างๆรวมทั้งแทบจะไม่ต้องใช้ปูนซีเมนต์สำหรับในการก่อสร้าง ทำให้ช่วยลดการปะทุภูเขาเอาซีเมนต์ รวมทั้งการทำลายป่า ตัดต้นไม้มาใช้งานในจำนวนมาก
- เรียบง่าย เมื่อเทคโนโลยีแล้วก็ของใหม่เริ่มเติบโต คนรุ่นหลังก็เลยเริ่มห่างจากธรรมชาติมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การอาศัยบ้านดินจะทำให้มนุษย์ได้เข้าใจถึงความง่ายๆสำหรับเพื่อการพึ่งพาตนเองอย่างแท้จริง
- ราคาถูก หากการสร้างบ้านจำเป็นที่จะต้องใช้อุปกรณ์มากมายก่ายกองที่ทำให้จะต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ว่าด้วยการสร้างบเนจะใช้เพียงแต่ดินเป็นส่วนมาก ทำให้บ้านดินมีต้นทุนต่ำลงยิ่งกว่ามากมาย ซึ่งในประเทศไทยนั้นดินในแถบลุ่มน้ำภาคกลางก็เป็นดินเหนียวเยอะๆ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นดินเหนียวผสมทราย ก็เลยทำให้รายจ่ายการสร้างบ้านดินถูกต่ำลงไปจากวัตถุดิบที่มีอยู่ในธรรมชาติ
- มีความแข็งแรงทนทาน บ้านดินที่สร้างขึ้นอย่างถูกวิธีจะสามารถแก่ยืนนานถึงระดับ 1,000 ปี เนื่องจากความแข็งแรงของดินเหนียวที่ช่วยยึดเกาะอย่างแข็งแรง
- ลดปัญหาสุขภาพ บ้านดินนั้นเป็นบ้านที่สร้างจากวัตถุดิบจากธรรมชาติทำให้ไม่ค่อยมีสารเคมีตกค้าง และยังสามารถอยู่เคียงคู่กับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน
- ป้องกันปลวก เนื่องจากว่าบ้านยุคใหม่ที่ใช้สร้างจะใช้สิ่งของจากปูนและไม้ไม่น้อยเลยทีเดียว Phuket Villa ทำให้เกิดปัญหาปลวกกัดแทะไม้ แม้กระนั้นกับบ้านดินแล้ว ละเลยเรื่องสัตว์ชนิดนี้ไปได้เลย
- ทนต่อไฟ ดินเหนียวนั้นมีประโยชน์ทางอ้อมก็คือจะไม่ติดไฟ แต่ว่าสิ่งที่ควรระมัดระวังต่อเรื่องไฟเป็น สิ่งของที่ใช้มุงหลังคา ถ้าเกิดใช้สิ่งของฟางหญ้าในการมุงหลังคา
- สร้างเองได้ บ้านดินสามารถสร้างเองได้ง่าย เพียงแค่มีแบบโครงสร้างที่ถูกแล้วก็มีฝีมือแล้วก็ทำเลที่ตั้งที่ดีเสียหน่อย ซึ่งนอกจากจะสร้างได้ง่ายยังเป็นเหตุให้พวกเราเกิดความภูมิใจ และก็ทำให้เกิดการศึกษาที่จะอยู่ในวิถีธรรมชาติด้วย
สร้างบ้านดิน ศิลป์วิถีการอาศัยแบบธรรมชาติ
หากจะพูดถึงบ้านที่สัมผัสถึงวิถีธรรมชาติสูงที่สุดชนิดหนึ่ง มั่นใจว่าหลายคนบางครั้งอาจจะเคยผ่านตากับ “บ้านดิน” กันมาบ้างแล้ว เนื่องจากว่าด้วยวิถีของธรรมชาติ ที่สร้างขึ้นมาจากวัตถุดิบที่มีอยู่ในธรรมชาติ ผสมกับความสามารถและวิชาความรู้สำหรับการสร้าง ก็เลยทำให้ตามชนบท หรือสถานที่ที่อากาศดีๆพวกเราชอบได้มองเห็นวิถีที่การพักอาศัยจำพวกนี้เยอะแยะ บ้านวิลล่าภูเก็ต ซึ่งมั่นใจว่าผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยที่เพียงพอมีที่ทางตามบ้านนอกอาจจะอาจจะเคยมีความคิดในการก่อสร้างที่อยู่ที่อาศัยแบบธรรมชาตินี้ไว้เพื่อใช้ในยามผ่อนคลาย
การสร้างบ้านดินนั้น มีขั้นตอนการก่อสร้างแตกต่างจากการก่อสร้างบ้านทั่วๆไป เพราะบ้านดินไม่มีระบบส่วนประกอบ ใช้กำแพงรับน้ำหนัก ซึ่งทำเลที่ตั้งของบ้านดินที่ดีควรจะเป็นพื้นที่ที่น้ำหลากไม่ถึง ไม่ใช่ทางน้ำไหลบ่า และก็หากเป็นพื้นที่กลบดินใหม่ ควรจะกลบทิ้งเอาไว้ประมาณ 1 ปี หรือผ่านตอนหน้าฝนสัก 1 ครั้ง ซึ่งภายหลังได้สถานที่เรียบร้อยให้ทดลองวางผังบ้านว่าจะสร้างในแบบใด เพราะการผลิตบ้านดินสามารถทำเป็นหลายแบบ
บ้านดินแบบปั้น (cob) ใช้ดินเหนียวผสมกับฟางข้าว ปั้นหรือก่อเป็นผนังขึ้นเรื่อยๆ
บ้านดินแบบอิฐดิบ (adobe brick) ใช้ดินผสมกับเส้นใย เช่น แกลบ เศษหญ้า หรือฟางข้าว เอามาผสมกับโคลน แล้วปั้นเป็นอิฐดิน ก่อนก่อเป็นฝาผนัง โดยใช้โคลนเป็นตัวประสาน
บ้านดินแบบโครงไม้ (wattle & daub) ทำโครงสร้างเป็นไม้ สานกันเป็นตาราง และก็นำฟางชุบด้วยโคลนโปะเป็นฝาผนัง
บ้านดินแบบใช้ดินอัด (rammed earth) ก่อสร้างผนัง โดยการทำแบบพิมพ์ แล้วนำดินเหนียวอัดเป็นฝาผนัง
บ้านดินแบบใช้ท่อนไม้หรือหิน (cord wood & stones) บ้านสไตล์มินิมอล สร้างฝาผนังโดยการนำเศษไม้หรือหินมาก่อเป็น ฝาผนังบ้าน ใช้ดินเป็นตัวประสาน และฉาบด้วยดิน อีกชั้นหนึ่ง
บ้านดินแบบกระสอบทราย (sand bag) ใช้กระสอบทรายใส่ทราย ให้เต็มเอามาวางเรียง อาจจะใช้ลวดหนามเป็นตัวช่วยยึด ไม่ให้กระสอบเลื่อนไหล แล้วก็ฉาบด้วยดินอีกครั้ง
เมื่อได้แบบที่ต้องการให้เริ่มทำอิฐดิน โดยจะมี 2 วิธีหลักๆเป็น
- วิธีสร้างอิฐดินเหนียวผสมเศษไม้ โดยใช้วัสดุ ดินเหนียว น้ำ เศษไม้หรือใช้เศษต้นหญ้า แกลบ รวมทั้งบล็อกสี่เหลี่ยมสำหรับขึ้นรูป ซึ่งสามารถทำเป็นง่ายโดยนำดินเหนียวมาผสมน้ำ เศษหญ้า หรือเศษไม้อัดกับบล็อก และก็อัดให้แน่นเพื่อความแข็งแรง ส่วนอีกแนวทางเป็น
- สร้างอิฐดินเหนียวแบบเผาไฟ โดยวิธีนี้จะใช้เวลานานกว่าโดยการนำดินเหนียวล้วนมาหล่อบนบล็อกสี่เหลี่ยมแล้วทิ้งเอาไว้ให้แห้ง แล้วต่อจากนั้นก็เลยนำไปเผาไฟจะได้ก้อนอิฐที่มีความแข็งแรง ซึ่งขั้นตอนการทำก็เหมือนวิธีการทำอิฐมอญแม้กระนั้นส่วนประกอบจะแตกต่างกันไป โดยใช้เวลาตากอิฐโดยประมาณ 5-7 วัน ซึ่งภายหลังผ่าน 2-3 วันให้กลับอีกด้านขึ้นตากให้แห้ง และก็แต่งอิฐขณะนี้
เมื่อก่ออิฐดินเป็นระเบียบ ให้นำก้อนอิฐดินมาก่อเป็นกำแพงผนัง โครงการบ้านภูเก็ต โดยคำนวณตามแบบพร้อมจัดตั้งวงกบประตู หน้าต่าง ขุดบ่อถ่าย แล้วหลังจากนั้นก็เลยเดินระบบไฟฟ้า ท่อน้ำดี ท่อน้ำเสียให้เป็นระเบียบ ด้วยเหตุว่าจะได้ไม่ต้องเสียเวล่ำเวลาเจาะกำแพงภายหลังที่ฉาบเสร็จแล้ว โดยการฉาบนั้นเพื่อช่วยยึดโครงสร้างให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
ก่อนจะทำจัดตั้งเพดานแล้วก็หลังคา โดยวางคาน รับหลังคาขององค์ประกอบหลังคาแล้วก็ฉาบทับเพื่อโครงสร้างยึดติดกันได้ดี ซึ่งโครงหลังคาก็มีส่วนทำให้บ้านดินแก่การใช้งานได้นานเช่นกัน ซึ่งควรจะมุงหลังคาให้ช่วยระบายน้ำได้ดี เพื่อลดการถูกน้ำชะผนัง
แล้วต่อจากนั้น คอยจนแห้งสนิทก็เลยสามารถไปสู่วิธีการลงสี ซึ่งควรจะจากข้างในก่อน เนื่องมาจากด้านในจะไม่ค่อยได้รับแสงแดดทำให้แห้งช้า ก่อนที่จะทาภายนอกและก็ก็เลยตกแต่ง โดยบางทีอาจใช้กระเบื้อง ก้อนกรวด หรือสุดแท้แต่ตามรสนิยมของแต่ละคน ก็จะได้บ้านดินที่ต้องการอย่างสมบูรณ์
บ้านดิน vs บ้านปูน
หลายครั้งที่ผมได้จัดฝึกอบรมบ้านดินให้กับกลุ่มเยาวชน หลังจากที่ได้ลองทำบ้านดินซักระยะหนึ่ง ผมมักชอบที่จะให้เขาได้ลองคิดถึงข้อดี-ข้อเสียของทั้งบ้านดินและบ้านคอนกรีต คำตอบหนึ่งซึ่งมักจะออกมา เช่น ทำบ้านดินเหนื่อยกว่าทำบ้านปูนหรือคอนกรีตสามารถหาได้ง่ายในขณะที่ดินในบางพื้นที่สร้างไม่ได้ บทความนี้ผมอยากจะมาลองสืบค้นดูว่าคอนกรีตหาได้ง่ายหรือสะดวกกว่าบ้านปูนจริงหรือไม่ อย่างไร
ถ้าเราจะเทียบระหว่างวัสดุที่นำมาก่อสร้างคือ ดิน และคอนกรีต เราต้องเริ่มจากที่มาเดียวกันซะก่อน เพราะฉะนั้นถ้าดินเริ่มต้นที่การเอาจอบมาฟันลงในดิน นำไปคลุกกับทราย (ในกรณีที่ดินที่เรามีมีส่วนผสมของดินเหนียวมากเกินไป) และแกลบ ผสมน้ำซึ่งอาจจะเป็นน้ำประปาหรือน้ำคลองก็ได้
ในส่วนของคอนกรีตนั้นก็ต้องเริ่มต้นจากการระเบิดภูเขา ใช้รถตักขนาดใหญ่ขนวัสดุขึ้นรถบรรทุกเพื่อนำไปบดให้เล็กลง หลังจากนั้นก็จะไปสู่ที่เก็บวัสดุแล้วจึงนำไปบดอีกครั้งเพื่อให้มีความละเอียดมากขึ้นอีก จากนั้นก็จะมีการผสมวัสดุ ซึ่งโดยปรกติแล้วคอนกรีตนั้นไม่ได้มีเฉพาะหินปูนเท่านั้น แต่ยังอาจจะต้องมี หินชอล์ค ดินเหนียว หินชนวน ดินลูกรัง ยิปซัม ฯลฯ ซึ่งอาจจะมาจากแหล่งผลิตเดียวกัน หรือต้องขนส่งมาจากแหล่งอื่น
วัตถุดิบต่าง ๆ จะถูกเก็บไว้ในที่เก็บวัตถุดิบขนาดใหญ่และส่งต่อมาทางสายพาน หลังจากที่วัตถุดิบต่าง ๆ ได้ผสมกันตามสัดส่วนที่ต้องการ จากนั้นก็จะนำไปเพิ่มความร้อนให้กับวัตถุดิบด้วยลมร้อนก่อนที่จะส่งเข้าเตา เผา โดยจะมีการเติมน้ำเล็กน้อยและผ่านเข้าไปในเครื่องทำเม็ด เพื่อให้วัตถุดิบจับตัวเป็นก้อนกลมและสะดวกในการป้อนวัตถุดิบเข้าเตาเผา
เตาเผาจะเป็นเตาเผาเหล็กกล้ารูปทรงกระบอกเอียงเล็กน้อย ข้างในบุด้วยอิฐทนไฟ เตาจะหมุนช้า ๆ ประมาณ 1 – 3 รอบต่อนาที ใช้เชื้อเพลิงถ่านหิน น้ำมัน หรือก๊าซธรรมชาติ ใช้เวลาเผาประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง ซึ่งอุณหภูมิภายในนั้นสูงสุดถึง 1,600 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว จากนั้นก็จะต้องนำมาละอุณหภูมิโดยต้องมีการควบคุมอัตราการลดลงเนื่องจากจะ ส่งผลถึงความเป็นผลึกของเมล็ดปูน
ต่อจากนั้นต้องนำส่วนผสมมาบดอีกครั้งก่อนที่จะส่งไปโรงงานบรรจุปูนซีเมนต์อีก ครั้งหนึ่ง ทั้งหมดที่ว่ามานี้เป็นเพียงแค่กระบวนการผลิต ก่อนที่จะถูกส่งไปยังโกดังเก็บและส่งไปยังร้านค้า ยังไม่รวมกระบวนการที่เราต้องไปทำงานหาเงินมาเพื่อซื้อ ขับรถไปซื้อมาจากร้านและทั้งหมดนี้เป็นเพียงกระบวนการผลิต ยังไม่ได้พูดถึงผลกระทบจากการผลิตที่มีผลต่อสิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตของผู้ที่อยู่ในชุมชนรอบข้างสถานที่ผลิต
อ่านต่อเพิ่มเติม: Pool Villas Pasak . sale villa . Phuket Villa. Pool Villa. พูลวิลล่าภูเก็ต. โครงการบ้านภูเก็ต. บ้านจัดสรร. พูลวิลล่าภูเก็ต ราคาถูก. ซื้อวิลล่าภูเก็ต